
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 19 ต.ค.65 ปิดที่ 1,588.72 จุด ลดลง 1.64 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 48,990.05 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 76.31 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด BDMS ปิด 28 บาท ลบ 0.75 บาท, PTTEP ปิด 168.50 บาท ลบ 1.50 บาท, DELTA ปิด 670 บาท ลบ 8 บาท, BBL ปิด 140.50 บาท บวก 1 บาท, SCB ปิด 106.50 บาท บวก 1.50 บาท
หุ้นไทยปรับลงเล็กน้อยจากแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มโรงพยาบาลและกลุ่มพลังงาน ขณะที่มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เก็งงบไตรมาส 3 ที่คาดว่าจะออกมาดีช่วยพยุงดัชนี
บล.เอเซียพลัสออกบทวิเคราะห์ ระบุภาครัฐเตรียมออกแพ็กเกจใหญ่ กระตุ้นเศรษฐกิจช่วงโค้งสุดท้ายของปีท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่กำลังเข้าสู่ภาวะ Recession หลายประเทศ ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป ที่มีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะชะลอตัว แต่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยการประชุม ครม.ครั้งล่าสุด ภาครัฐเตรียมดำเนินมาตรการต่างๆ โดยตั้งงบประมาณวงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท หวังกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของไทยช่วงที่เหลือของปี
ทั้งนี้ หากเศรษฐกิจไทยปี 65 ขยายตัวได้ราว 3% ตามการคาดการณ์ของสภาพัฒน์ ในช่วง 2H65 น่าจะเห็นการเติบโตของ GDP อัตรา 3.6% YoY ซึ่งถือว่าดีกว่า 1H65 อย่างชัดเจน
โดยสรุป ภาครัฐเตรียมออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่เหลือของปี คาดเศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวปลายปีนี้ และปีหน้าคาดจะเห็นภาครัฐลดมาตรการเยียวยาประชาชน และเพิ่มมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งน่าจะช่วยหนุนการลงทุนในตลาดหุ้น
เอเซียพลัสแนะนำลงทุนหุ้นที่อิงการฟื้นตัวในประเทศ นำโดย HMPRO-CBG-ASK-BBL!!
ขณะที่ บล.หยวนต้าแนะนำ “ซื้อ” หุ้น M ระบุมีมุมมองเชิงบวกในระยะยาวของ M คาดกำไรปี 66 ที่ 2,246 ล้านบาท (+34.5%YoY) กลับมาฟื้นตัวที่ระดับ 86% เทียบกับช่วงก่อน COVID-19 ในปี 62 จากการบริโภคที่ฟื้นตัวต่อเนื่องและแนวโน้มต้นทุนที่คาดว่าจะคลี่คลายมากขึ้น
ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 66 ได้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 68.50 บาท เทียบเท่า PER ที่ 28.1 เท่า และราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER 66 เพียง 23.8 เท่า คงคำแนะนำ “ซื้อ”
อีกตัว BDMS มองผลประกอบการ BDMS จะ Outperform กลุ่มในปี 65-66 ผลบวกจากรายได้ลูกค้าต่างชาติที่ฟื้นตัว ต่างจากหลายโรงพยาบาล ที่คาดกำไรปรับลดลงจากฐานที่สูง ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 66 ที่ 34.20 บาท!!